วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การป้องกันความเสี่ยงจากการเที่ยวสถานบันเทิงเริงรมย์

แนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศในโรงเรียนและชุมชน
               


 ในการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศ ควรคำนึงถึงธรรมชาติและบทบาทชายหญิง เพราะมุมมองเรื่องการมีเพศสัมพันธ์จะมีความแตกต่างกันคือ วัยรุ่นชายต้องการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากบางคนอยากรู้ อยากเห็นอยากลอง ส่วนวัยรุ่นหญิงมักยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก เพราะคิดว่าเป็นการแสดงออกของความรัก จากมุมมองที่มีความแตกต่างกันนี้ การที่จะชักชวนให้วัยรุ่นชายและหญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมดังกล่าวทั้งในโรงเรียนและชุมชน จึงควรต้องมีกิจกรรมหลายรูปแบบเพื่อเป็นแนวทางให้เลือกเข้ากิจกรรมได้ตามความต้องการและสนใจ
                การมีส่วนร่วมของวัยรุ่นในการจัดกิจกรรมเพื่อป้องปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศในโรงเรียนและชุมชน คือ กระบวนการเกี่ยวข้องให้วัยรุ่นมีส่วนในการและเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น เพื่อแสวงหาทางเลือก และการตัดสินใจแก้ปัญหาของตนเอง เพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศ โดยร่วมใช้ความคิดเห็นเสนอโครงการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับทั้งในโรงเรียนและชุมชน เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในกระบวนการนี้ตั้งแต่เริ่มโครงการจนกระทั้งการติดตามและประเมินผล
1. ตัวอย่างการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศ
                สำหรับตัวอย่างที่นำเสนอนี้เป็นกิจกรรมเชิงรุกเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศในโรงเรียนและชุมชนดังนี้
1.1 โครงการฝึกอบรมหลักสูตร “แกนนำเครือข่ายนักเรียนไทยกลุ่มรักนวลสงวนตัว
                ศูนย์เสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งโครงการฯ นี้โดยใช้โรงเรียนในกรุงเทพฯ เป็นโครงการนำร่องก่อนที่จะนำหลักสูตรไปใช้ทั่วประเทศ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
1) วัตถุประสงค์ของโครงการฯ:
    1. ช่วยเผยแพร่ความรู้ให้เยาวชนรู้เท่าทันสถานการณ์ที่ล่อแหลมในปัจจุบัน
    2. รู้ถึงภัยอันตรายที่มีอยู่รอบตัว
    3. สร้างค่านิยมในเรื่องรักนวลสงวนตัวให้เกิดขึ้น
2) ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ : ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน โดยจัดในช่วงปิดเทอม
3)มีเนื้อหาหลักสูตรแบ่งเป็น 4 หมวด ดังนี้
     1.หมวดความรู้เกี่ยวกับการรู้เท่าทันสภาวะแวดล้อมและสิ่งยั่วยุในสังคม
     2.หมวดการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและธำรงรักษาวัฒนธรรมที่ดีงาม
     3.หมวดการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำและการอยู่ร่วมกัน
     4.หมวดการสร้างแกนนำเครือข่ายนักเรียนไทยกลุ่มรักนวลสงวนตัว
1.2 โครงการวัยกระเตาะรู้ทันเล่ห์ก่อนเสียท่าชาย
                 สภาสตรีแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการเพื่อสอนวัยรุ่นหญิงให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายและชักชวนให้รักนวลสงวนตัว  โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 3 ตอนดังนี้
ตอนที่ 1 : จุดอันตรายที่ต้องสงวน 10 จุด
            จุดอันตรายที่ต้องสงวน 10 จุด อย่าให้ใครแตะต้องลูบไล้ ได้แก่ ฝ่ามือ แขน ต้นแขน ริมฝีปากและลิ้น แก้ม ต้นคอ หน้าผาก หน้าท้อง ต้นขาและอวัยวะเพศ ซึ่งมีวิธีการสอนโดยใช้การแสดง คือ มีอาจารย์อยู่ในทีมงานประมาณ 3-4 คน โดยยืนอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในห้องเพื่อสังเกตการณ์ (หน้าห้อง กลางห้อง และหลังห้อง) จากนั้นให้นักเรียนหญิงจับคู่กัน และออกมาหน้าห้อง โดยให้แต่ละคู่จับมือกัน แล้วครูถามว่ารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นไหม หากนักเรียนตอบว่าไม่มี ขั้นต่อไปให้นักเรียนแต่ละคู่ค่อยๆ ลูบแขนซึ่งกันและกัน ครูถามเช่นเดิมอีกครั้ง หากนักเรียนตอบว่า ขนลุก สยิว หรือรู้สึกมีอาการแปลกๆ ครูจึงอธิบายให้นักเรียนฟังว่าเมื่อมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้น ไม่ควรให้มีการสัมผัสต่อไปอีกเพราะอาจมีพฤติกรรมหรือการกระทำอื่นๆ ตามมา ต้องระวังอย่าให้ใครแตะต้องจุดอันตรายทั้ง 10 จุดนั้น เนื่องจากเมื่อเรารู้สึกเคลิบเคลิ้มหรือควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจเกิดอันตรายทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้

ตอนที่ 2
 : สุขอนามัยวัยกระเตาะ
            การสอนและแนะนำให้นักเรียนหญิงรู้จักดูแลตนเอง โดยการทำความสะอาดอวัยวะของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เช่น ผม หน้าตา ผิวหนัง มือ เล็บ แขน ขา เท้า รวมทั้งอวัยวะเพศด้วยเสน่ห์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้หญิงก็คือการรู้จักดูแลอวัยวะเพศ เช่น การดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ให้อับชื้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น เชื้อรา โรคผิวหนัง หรือในขณะมีประจำเดือน ไม่ควรอาบน้ำแบบแช่ในอ่างน้ำ หรือลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง น้ำตก ทะเล เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางปากมดลูกได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
 ตอนที่ 3 : วัยกระเตาะรักนวลสงวนตัว
            การสอนและให้คำแนะนำกับนักเรียนหญิงในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางเพศ ดังนี้       1.หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศสองต่อสอง
                2.ไม่ควรให้เพศตรงข้ามถูกเนื้อต้องตัว สัมผัสร่างกาย
                3.หลีกเลี่ยงการเข้าไปอัดที่มีผู้คนเบียดเสียดกัน เพราะอาจมีพวกฉวยโอกาสสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวได้ หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ดังกล่าว ควรมีความระมัดระวังตนเองอยู่ตลอดเวลา
                4.รู้จักยับยั้งชั่งใจ สามารถควบคุมตนเองให้ปลอดภัยจากพฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ที่ยั่วยุหรือโน้มน้าวใจ
                5.รู้จักคิดแยกแยะถึงผลดี ผลเสียที่จะตามมาภายหลัง
                6.ปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ดังสุภาษิต “ไม่ชิงสุกก่อนห่าม” “รักนวลสงวนตัว


1 ความคิดเห็น: